
Fluorinated Solvent & Cleaning


Our products
-
Hydrofluoroether (HFE)
-
Hydrofluoroolefin (HFO)
-
Water Cleaning for Electronic and Precision
เกี่ยวกับ
Hydrofluoroether (HFE)
Hydrofluoroether (HFE) คือสารเคมีในกลุ่มของ fluorinated ethers ซึ่งมีการใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการทำความสะอาดและการทำความเย็น เนื่องจาก HFE มีคุณสมบัติที่ไม่เป็นพิษ ไม่ทำลายชั้นโอโซน (Ozone) และมีคุณสมบัติในการระเหยที่ดี จึงทำให้มันเป็นทางเลือกที่ดีในบางกระบวนการที่ต้องการสารทำความสะอาดที่ไม่ทิ้งคราบและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
คุณสมบัติของ Hydrofluoroether ประกอบด้วย:
-
ไม่มีพิษ : ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และค่าความเป็นพิษต่ำมากเมื่อเทียบกับแอลกอฮอล ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีคนทำงานในโรงงานหรือห้องที่ต้องการความปลอดภัยสูง
-
ไม่ทำลายชั้นโอโซน : ไม่มีผลกระทบต่อการทำลายชั้นโอโซน (zero ODP)
-
จุดเดือดต่ำ : ใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกระบวนการที่ต้องการให้สารระเหยไปเร็ว
-
ไม่ติดไฟ : ปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับการล้างด้วยไอ (Vapor Degrasing)
-
คุณสมบัติในการละลายที่ดี : HFE สามารถละลายสารสกปรก เช่น ฝุ่น โลหะ หรือสารที่ติดอยู่บนพื้นผิวของวัสดุ แม้กระทั้งงานที่ต้องการความละเอียดสูงอย่างชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งช่วยในการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพอย่างมาก
-
ปลอดภัยต่อสภาพแวดล้อม : โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องการสารทำความสะอาดที่ไม่ทิ้งสารตกค้าง และมีผลต่อสภาวะโลกร้อนต่ำ (Low GWP) จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการทดแทนสารเคมีที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น CFCs หรือ HCFCs ที่เคยใช้ในอุตสาหกรรมในอดีต
การใช้งานของ HFE ในอุตสาหกรรมต่างๆ:
-
อุตสาหกรรม Semiconductor
-
การทำความสะอาดชิป (Wafer Cleaning): ใช้ในการทำความสะอาดพื้นผิวเวเฟอร์ที่ใช้ในการผลิตชิป โดยการล้างสิ่งสกปรกจากกระบวนการต่างๆ เช่น การกัดกร่อน
-
การทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์: ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องมือที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น แม่พิมพ์ หรือเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการผลิตชิป
-
Non-Aqueous Cleaning: ใช้ในการล้างโดยไม่ใช้น้ำ ซึ่งช่วยลดการสะสมของน้ำที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนบนชิป
ข้อดีในงาน Semiconductor:
-
ความปลอดภัยสูงเพราะไม่มีพิษ
-
คุณสมบัติทำความสะอาดที่ดี
-
ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ทำลายโอโซนและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ
-
-
การทำความสะอาดระบบอิเล็กทรอนิกส์และวงจร
-
HFE ใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจรและเครื่องมือควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องปราศจากฝุ่นหรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจกระทบต่อการทำงาน
-
-
การทำความสะอาดชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินและยานอวกาศ
-
ใช้ในกระบวนการทำความสะอาดชิ้นส่วนเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนที่สำคัญ เช่น เครื่องยนต์หรือระบบไฮดรอลิก เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อการทำงานและประสิทธิภาพของเครื่องจักร
นอกจากนี้ยังใช้ในกระบวนการผลิตหรือซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในยานอวกาศ โดยเฉพาะการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ละเอียดอ่อน เช่น เซ็นเซอร์และเครื่องมือวิจัย
-
-
การใช้ในงานพิสูจน์หลักฐาน (Forensic)
-
ใช้ในการทำความสะอาดวัสดุที่บอบบาง เช่น ฟิล์มภาพถ่าย หรือเซ็นเซอร์ เพื่อไม่ทำลายพื้นผิวหรือคุณสมบัติของหลักฐาน
-
HFE ช่วยในการเก็บรักษาหลักฐาน เช่น เส้นด้ายผม หรือเส้นเลือด จากสถานที่เกิดเหตุ โดยไม่ทำให้เกิดการปนเปื้อนหรือความเสียหาย
-
เกี่ยวกับ
Hydrofluoroolefin (HFO)
Hydrofluoroolefin (HFO) คือสารเคมีในกลุ่ม fluorocarbons ที่มีโครงสร้างคล้ายกับสารในกลุ่ม hydrofluorocarbon (HFC) และ hydrofluoroether (HFE) แต่มีความแตกต่างในด้านโครงสร้างทางเคมี โดย HFO มีพันธะคู่ (double bond) ระหว่างอะตอมคาร์บอนในโมเลกุล ซึ่งทำให้ HFO มีคุณสมบัติที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า
HFO ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเพื่อใช้เป็นสารทำความเย็น (refrigerants) และสารทำความสะอาดในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการใช้สารที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Global Warming Potential หรือ GWP) สูง
คุณสมบัติของ Hydrofluoroolefin (HFO):
-
ค่า GWP ต่ำ (Global Warming Potential) : HFO มีค่า GWP ที่ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับสารในกลุ่ม HFC หรือ CFC ที่เคยใช้ในอดีต เช่น R-134a หรือ R-410A ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน
-
ไม่ทำลายชั้นโอโซน (Zero ODP) : HFO ไม่มีผลกระทบต่อการทำลายชั้นโอโซน ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกที่ดีในการทดแทนสารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-
สามารถระเหยได้ดี: เนื่องจากโครงสร้างทางเคมีของมันมีพันธะคู่ ทำให้ HFO ระเหยได้เร็วและสามารถใช้งานได้ในกระบวนการทำความสะอาดที่ต้องการการระเหยเร็ว
ข้อแตกต่างหลักระหว่าง HFE และ HFO:
-
ค่า GWP: HFO มีค่า GWP ที่ต่ำกว่า HFE อย่างมาก ซึ่งทำให้ HFO เป็นทางเลือกที่ดีกว่าในด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกระบวนการที่ต้องการสารทำความเย็น เช่น ในอุตสาหกรรมยานยนต์และ HVAC
-
การใช้งาน: HFE มักใช้ในกระบวนการทำความสะอาดที่ต้องการคุณสมบัติการระเหยเร็วและปลอดภัยต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วน HFO มักใช้ในอุตสาหกรรมการทำความเย็นและสารดับเพลิง เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการทดแทนสารที่มี GWP สูง
-
ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ: ทั้ง HFE และ HFO มีคุณสมบัติที่ไม่ทำลายชั้นโอโซนและมีความปลอดภัยสูง แต่ HFO จะมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนที่ต่ำกว่า ทำให้มันเป็นสารที่มีความยั่งยืนกว่าในระยะยาว
